ข้อมูลทั่วไปของสถานศึกษา


ประวัติของสถานศึกษา วิทยาลัยการอาชีพสังขะ กรมอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ เป็นวิทยาลัยการอาชีพระดับ อำเภอ จัดตั้งขึ้นตามนโยบายของรัฐบาล โดยกระทรวงศึกษาธิการเห็นควรให้ขยายโอกาสทางการศึกษาด้าน วิชาชีพให้กว้างขวางขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในชนบท และตรงกับความต้องการ ของตลาดแรงงานในท้องถิ่น รวมทั้งทันต่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมในส่วนรวม ในการจัดการศึกษา และฝึกอบรมวิชาชีพทุกระดับวิชาชีพที่ขาดแคลน ซึ่งเป็นความต้องการของท้องถิ่นและของประเทศ อันเป็น การเสริมสร้างและพัฒนาคนของประเทศให้มีคุณภาพในการประกอบวิชาชีพและมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น จากนโยบายดังกล่าว วิทยาลัยการอาชีพสังขะ ได้รับการประกาศจัดตั้ง โดยฯพณฯ กำชัย เรืองกาญจนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ปฏิบัติราชการแทน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2538 โดยมี นายวโรภาส ศรีพันธุ์ ผู้ช่วย ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคร้อยเอ็ด เป็นผู้ประสานงานจัดตั้งวิทยาลัยการอาชีพสังขะ การจัดการศึกษา วิทยาลัยการอาชีพสังขะจัดการเรียนการสอนใน 2 ระดับ ดังนี้ 1. ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ(ปวช.) 2. ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง(ปวส.) และสถานศึกษามีครูที่มีคุณวุฒิการศึกษาและจำนวนตามเกณฑ์ที่กำหนดใช้หลักสูตรฐานสมรรถนะ ในการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ และบริหารจัดการทรัพยากรของสถานศึกษามี ประสิทธิภาพมีความสำเร็จในการดำเนินการตามนโยบายสำคัญของหน่วยงานต้นสังกัดหรือหน่วยงานที่กำกับ ดูแลสถานศึกษาประกอบด้วยประเด็นการประเมิน ๔ ด้าน ดังนี้ 1. ด้านหลักสูตรอาชีวศึกษา สถานศึกษาใช้หลักสูตรฐานสมรรถนะที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียน ชุมชน สถาน ประกอบการตลาดแรงงาน มีการปรับปรุงรายวิชาเดิม หรือกำหนดรายวิชาใหม่ หรือกลุ่มวิชาเพิ่มเติมให้ทันต่อ การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและความต้องการของตลาดแรงงน โดยความร่วมมือกับสถานประกอบการ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 2. ด้านการจัดการเรียนการสอนอาชีวศึกษา สถานศึกษามีครูที่มีคุณวุฒิการศึกษาและมีจำนวนตามเกณฑ์ที่กำหนด ได้รับการพัฒนาอย่างเป็น ระบบต่อเนื่องเพื่อเป็นผู้พร้อมทั้งด้านคุณธรรม จริยธรรมและความเข้มแข็งวิชาการและวิชาชีพ จัดการเรียน การสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ตอบสนองความต้องการของผู้เรียนทั้งวัยเรียนและวัยทำงาน ตามหลักสูตร มาตรฐานคุณวุฒิอาชีวศึกษาแต่ละระดับการศึกษา ตามระเบียบหรือบังคับเกี่ยวกับการจัดการศึกษาและการ ประเมินผลการเรียนของแต่ละหลักสูตร ส่งเสริม สนับสนุน กำกับดูแลให้ครูจัดการเรียนการสอนรายวิชาให้ ถูกต้องครบถ้วน สมบูรณ์ 3. ด้านการบริหารจัดการ สถานศึกษาบริหารจัดการบุคลากร สภาพแวดล้อม ภูมิทัศน์ อาคารสถานที่ ห้องเรียน ห้องปฏิบัติการโรงฝึกงานศูนย์วิทยบริการ สื่อ แหล่งเรียนรู้ เทคโนโลยีสารสนเทศ ครุภัณฑ์และงบประมาณ ของสถานศึกษาที่มีอยู่อย่างเต็มศักยภาพและมีประสิทธิภาพ 4. ด้านการนำนโยบายสู่การปฏิบัติ สถานศึกษามีความสำเร็จในการดำเนินการบริหารจัดการสถานศึกษา ตามนโยบายสำคัญที่ หน่วยงานต้นสังกัดหรือหน่วยงานที่กำกับดูแลสถานศึกษามอบหมาย โดยความร่วมมือของผู้บริหาร ครู บุคลากรทางการศึกษาและผู้เรียนรวมทั้งการช่วยเหลือ ส่งเสริม สนับสนุนจากผู้ปกครอง ชุมชน สถาน ประกอบการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชน สภาพชุมชน สภาพชุมชน อำเภอสังขะยังไม่มีโรงงานอุตสาหกรรมใดเข้าไปทำธุรกิจจึงไม่มีปัญหาด้านมลพิษหรือ ประสบปัญหาสภาพแวดล้อมมากนัก เพียงแต่อำเภอสังขะมีผู้คนอพยพเข้ามาหาที่ทำกินตั้งถิ่นฐานมากขึ้น การ บุกรุกทำลายบำาจึงเกิดขึ้นทั่วทุกพื้นที่ป่าจึงเหลือเพียงบางแห่งที่มีเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาอย่างต่อเนื่องเท่านั้น เช่น ป่าดงคู ที่มีสนสามใบ เป็นต้น สภาพสังคม สภาพสังคม ประชากรส่วนใหญ่ของอำเภอสังขะ นับถือศาสนาพุทธ โดยกลุ่มคนดั้งเดิม มีสองกลุ่ม ใหญ่ คือกลุ่มชนชาวส่วยและกลุ่มชนชาวเขมร ชุมชนชาวลาวเป็นชุมชนที่เข้ามาตั้งรกรากใหม่ แต่ทั้งสามกลุ่ม ก็มีความผูกพันกันทางสังคม มีการผสมผสานกันอย่างกลมกลืน และมีความเป็นอยู่แบบเรียบง่าย เชื่อฟังและ เคารพผู้นำของหมู่บ้าน จึงไม่พบปัญหาการใช้ภาษาที่ต่างกันแต่อย่างไร จะมีบ้างก็คือด้านประเพณี วัฒนธรรม และชีวิตความเป็นอยู่ที่แตกต่างกันไปตามชาติกำเนิด ซึ่งสืบเนื่องมาจากประเพณีท้องถิ่นที่มีมาแต่บรรพบุรุษที่ แตกต่างกัน สภาพเศรษฐกิจ สภาพเศรษฐกิจ ของชุมชนในเขตบริการของวิทยาลัยการอาชีพสังขะ ผู้ปกครองของนักเรียน นักศึกษาส่วนใหญ่ยากจน รายได้อยู่ในเกณฑ์ต่ำไม่สามารถส่งบุตรหลานเข้าศึกษาต่อที่อยู่ในเมืองหรือ ต่างจังหวัดได้ นักเรียนนักศึกษาที่เข้ามาศึกษาในวิทยาลัยฯ มักจะมีปัญหาเรื่องการเงิน ดังจะเห็นได้จากการ แสดงความจำนงขอกู้เงินกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา(กยศ.)จำนวนมาก ภาษา / วัฒนธรรม ประชากรดั้งเดิมอำเภอสังขะ มีชนกลุ่มใหญ่อยู่สองกลุ่ม คือ กลุ่มชนชาวกวย และกลุ่มชนชาวเขมร ส่วนชุมชนลาวจะเป็นชุมชนเข้ามาตั้งรกรากใหม่ หมู่บ้านที่เกิดขึ้นใหมไม่เกิน 60 ปี จะประกอบไปด้วยชุมชน ชาวลาว กวย และเขมรรวมกัน ประชากรทั้งสามกลุ่มจะผูกพันกันทางสังคม โดยต่างเป็นส่วนหนึ่งของสังคม และผูกพันกัน ประสานความเป็นพี่น้องกันอย่างแนบแน่นด้วยการเกี่ยวพันธ์กันในการทางแต่งงาน จึงมีการ ผสมผสานกันอย่างกลมกลืน ประชากรส่วนใหญ่ใช้ภาษากวย ภาษาลาว ภาษาเขมร ในการสื่อสาร


free counter